ผมกำลังแสวงหาอะไรอยู่?

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:49 am

ความคิดผมคิดว่าพระไม่เห็นด้วยที่เราสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก พระเจ้าบอกว่า ขายทุกสิ่งแจกจ่ายใหคนจนแล้วตามเรามา อูฐเข้ารูเข้มยังง่ายกว่าเศรษฐีไปสวรรค์ คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง  ถ้ามีเงินเยอะมากก็ต้องแจกจ่ายให้คนจนมากก็ต้องเจ็บมากแต่ก็ได้บุญมากเพราะว่าตัวเองเสียสระให้พระมากกว่า แต่ถ้าเรายังรักเงินเพราะเรารวยอยากมีเงินเราก็เป็นเหมือนกับเศรษฐีหนุ่ม
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ จันทร์ ก.พ. 26, 2007 4:09 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

จันทร์ ก.พ. 26, 2007 4:25 am

บางทีนะครับ เวลาเราได้ดีเจออะไรดีๆ หรืออยู่ในสภาพที่ดีๆ ก็กลัวว่าจะเสียไปหรือพระเจ้าจะเอาคืนไปพี่ก็เคยเป็นบ่อย ก็ต้องระวังปีศาจบางทีมันก็ใส่ความคิดพี่บางทีก็รู้สึกกลัวบ่อยๆ หรือจิตเราฟุ้งซ่าน 

พระเจ้าไม่เคยทำร้ายใครให้เราวางใจพระเจ้าพอ คนคริสต์บางคนที่เขามีปัญหาเพราะพระเจ้ารักเขาพอเขารวยแล้วเขาลืมพระเจ้าพระเจ้าก็เลยตีสอน สิ่งที่พระเจ้าต้องการคือวิญญาณของเขา พระเจ้าก็เหมือนพ่อแม่เรานั่นแหละมีแต่ให้
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ก.พ. 27, 2007 10:35 am

Jack Sparrow เขียน: ความคิดผมคิดว่าพระไม่เห็นด้วยที่เราสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก พระเจ้าบอกว่า ขายทุกสิ่งแจกจ่ายใหคนจนแล้วตามเรามา อูฐเข้ารูเข้มยังง่ายกว่าเศรษฐีไปสวรรค์ คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง  ถ้ามีเงินเยอะมากก็ต้องแจกจ่ายให้คนจนมากก็ต้องเจ็บมากแต่ก็ได้บุญมากเพราะว่าตัวเองเสียสระให้พระมากกว่า แต่ถ้าเรายังรักเงินเพราะเรารวยอยากมีเงินเราก็เป็นเหมือนกับเศรษฐีหนุ่ม
ผมเห็นด้วยที่เราไม่ควรสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก  และผมก็เห็นนักบวชจำนวนหนึ่งขอบริจาคเพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อสงเคราะห์คนด้อยโอกาส เช่น คนป่วยเอดส์ โรคเรื้อน เด็กกำพร้า หญิงท้องนอกสมรส เป็นต้น  ถ้าไม่มีคนที่หาเงินทองฝ่ายโลกเลย จะเกิดอะไรขึ้น ?
ในความเห็นของผม " คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง " เป็นประโยคที่ต้องระวังให้มาก  พระเยซูไม่เคยกล่าวเช่นนั้น  ในความเชื่อของผม "คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องเด็มเปี่ยมด้วยความรัก  รักตนเอง  รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง  และรักพระเจ้ากว่าสิ่งต่าง ๆหรือรักความรักมากกว่าสิ่งใด ๆ เพราะพระเจ้าคือความรัก ผู้ใดมีความรักพระเจ้าสถิตกับผู้นั้น

เงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย  ความรักเงินต่างหากที่ชั่วร้าย  รักเงินมากจนทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อให้ได้เงินมา  ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี  ค้ายาเสพติด ค้าหรือทำสิ่งละเมิดศิลธรรม  ละเมิดกฏหมาย เพื่อให้ได้เงินมา
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ก.พ. 27, 2007 10:52 am

Joseph เขียน: บางทีนะครับ เวลาเราได้ดีเจออะไรดีๆ หรืออยู่ในสภาพที่ดีๆ ก็กลัวว่าจะเสียไปหรือพระเจ้าจะเอาคืนไปพี่ก็เคยเป็นบ่อย ก็ต้องระวังปีศาจบางทีมันก็ใส่ความคิดพี่บางทีก็รู้สึกกลัวบ่อยๆ หรือจิตเราฟุ้งซ่าน 

พระเจ้าไม่เคยทำร้ายใครให้เราวางใจพระเจ้าพอ คนคริสต์บางคนที่เขามีปัญหาเพราะพระเจ้ารักเขาพอเขารวยแล้วเขาลืมพระเจ้าพระเจ้าก็เลยตีสอน สิ่งที่พระเจ้าต้องการคือวิญญาณของเขา พระเจ้าก็เหมือนพ่อแม่เรานั่นแหละมีแต่ให้
ผมเชื่อว่าความรักความเมตตาของพระเจ้ายิ่งใหญ่สุดพรรณาได้  เป็นไปได้อย่างไรที่พระเจ้าจะลงโทษผู้ใดให้ทนทุกข์ชั่วนิรันดร์ ?แม้แต่ปีศาจก็เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้อาจไม่แตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นบนสวรรค์ก็ได้ ??? มีความขัดแย้งอยู่เสมอ
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อังคาร ก.พ. 27, 2007 8:44 pm

สำหรับพี่ก็เชื่อว่าพระเจ้ารักเรา อยากให้ลูกๆ ของพระองค์ได้ดี ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกต้องอยู่อย่างอดยาก แต่ที่แน่ๆ พระองค์ต้องการหัวใจของเราหัวใจที่รักพระองค์อย่างที่น้องว่า คือรักพระเจ้าสุดจิต จุดใจ สุดกำลัง สุดความคิด

พี่คิดว่าพ่อแม่ก็ต้องรักลูกบางครั้งพ่อแม่ก็ต้องตีสอนลูกถ้าเส้นทางนั้นทำให้วิญญาณลูกไปนรก พี่คิดว่าถ้าเราแสวงหาพระเจ้าด้วยความจริงใจ พระเจ้าอวยพรเราอยู่แล้วครับไม่ต้องกลัว พระเจ้าต้องการอวยพรเราแต่หัวใจเราเองที่ทำให้พระเจ้าอวยพรไม่ได้ ถ้าเราไม่รักพระองค์ด้วยความจริงใจ จงแสวงหาพระเจ้าก่อนก่อนครับแล้วทุกๆ สิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ก.พ. 27, 2007 10:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

พุธ ก.พ. 28, 2007 1:17 am

sakda88 เขียน:
Jack Sparrow เขียน: ความคิดผมคิดว่าพระไม่เห็นด้วยที่เราสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก พระเจ้าบอกว่า ขายทุกสิ่งแจกจ่ายใหคนจนแล้วตามเรามา อูฐเข้ารูเข้มยังง่ายกว่าเศรษฐีไปสวรรค์ คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง  ถ้ามีเงินเยอะมากก็ต้องแจกจ่ายให้คนจนมากก็ต้องเจ็บมากแต่ก็ได้บุญมากเพราะว่าตัวเองเสียสระให้พระมากกว่า แต่ถ้าเรายังรักเงินเพราะเรารวยอยากมีเงินเราก็เป็นเหมือนกับเศรษฐีหนุ่ม
ผมเห็นด้วยที่เราไม่ควรสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก  และผมก็เห็นนักบวชจำนวนหนึ่งขอบริจาคเพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อสงเคราะห์คนด้อยโอกาส เช่น คนป่วยเอดส์ โรคเรื้อน เด็กกำพร้า หญิงท้องนอกสมรส เป็นต้น  ถ้าไม่มีคนที่หาเงินทองฝ่ายโลกเลย จะเกิดอะไรขึ้น ?
ในความเห็นของผม " คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง " เป็นประโยคที่ต้องระวังให้มาก  พระเยซูไม่เคยกล่าวเช่นนั้น  ในความเชื่อของผม "คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องเด็มเปี่ยมด้วยความรัก  รักตนเอง  รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง  และรักพระเจ้ากว่าสิ่งต่าง ๆหรือรักความรักมากกว่าสิ่งใด ๆ เพราะพระเจ้าคือความรัก ผู้ใดมีความรักพระเจ้าสถิตกับผู้นั้น

เงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย  ความรักเงินต่างหากที่ชั่วร้าย  รักเงินมากจนทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อให้ได้เงินมา  ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี  ค้ายาเสพติด ค้าหรือทำสิ่งละเมิดศิลธรรม  ละเมิดกฏหมาย เพื่อให้ได้เงินมา
วิถีชีวิตพระเจ้าเท่านั้นที่กำหนด เราเหมือนเรือแต่พระเจ้าเป็นผู้นำว่าเรือจะไปในทิศทางใดฝากชีวิตทั้งชีวิตให้พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทางครับ ไม่ว่าเจอพายุร้ายดูเหมือนเรือใกล้จะล่มแต่เราก็ไม่กลัวเพราะเรารู้ว่ามีพระเจ้าทรงนำทางพระองค์ไม่เคยหลับเมื่อเรามีภัย
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ก.พ. 28, 2007 4:34 am

เอชไม่ทราบนะฮะว่าคนอื่นแสวงหาอะไร เพราะมันเป็นวิถีทางของแต่ละคน
ซึ่งพระเจ้าได้มอบอิสระให้แก่คนๆนั้น ว่าจะเดินตามทางที่พระองค์ทรงจัดไว้ให้
หรือจะเลือกออกจากพระองค์

แต่เอชบอกตัวเองเสมอว่า : แสวงหาความชอบธรรม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ก.พ. 28, 2007 8:52 am

กระทู้นี้ยาวเหลือเกิน ... งั้นตอบบ้างดีกว่า  : emo045 :

จงแสวงหาน้ำพระทัยพระเป็นเจ้าและความเที่ยงตรงของพระองค์ แล้วทุกๆสิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน อัลเลลู อัลเลลูยา

จากบทเพลงข้างต้น ก็บอกไว้ให้แสวงหาอยู่ 2 อย่าง  ::017:: แล้วทุกสิ่งก็จะบังเกิดแก่ท่าน ใช่ปะครับ  : emo027 :  : xemo017 :  : xemo028 :
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.พ. 28, 2007 11:22 am

ในความเห็นของผม น้ำพระทัยของพระเจ้าคือ  ความรักและความเมตตา  และพระองค์ทรงประทานสิ่งที่เหมาะสมแก่ลูก ๆ ของพระองค์ทุก ๆ คน
พระเจ้าไม่ประสงค์สัตวบูชา  ทรงประสงค์ความเมตตา
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พุธ ก.พ. 28, 2007 1:00 pm

เพียงแค่เดินบน หนทาง ความจริง และชีวิต ก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องแสวงหาอีกต่อไปแล้ว
จงวางใจในพระเจ้า และปล่อยให้พระองค์นำพาชีวิตของเราไป
ละทิ้งน้ำใจตัวเอง ฟังและตอบสนองเสียงเรียกของพระองค์

ไม่ว่าเราจะทำอะไร เพียงแค่ให้นึกถึงพระองค์
ดำเนินตามทางที่พระเยซูได้ทรงวางแบบไว้
และให้แม่พระจูงมือเราเดิน เพื่อที่เราจะไม่หลงทาง
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ก.พ. 28, 2007 1:17 pm

แสวงหาสิ่งที่พระจัดไว้ให้....อืม น่าคิดแฮะ
และที่สำคัญ อย่าแสวงหาเพื่อตัวเองเท่านั้น แสวงหาเพื่อผู้อื่นด้วย
หาความชอบธรรม ถ้าพบมันมอบมันให้กับทุกคน และเหลือแค่ไหน ค่อยให้กับตัวเอง

: emo045 :  ps....ฉลองเย้วๆๆ นี่กระทู้ที่ 90 ที่ตอบ 55+ : xemo016 :
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:10 pm

มนุษย์ทุกคนเห็นแก่ตัว  ไม่มีผู้ใดเลยในโลกนี้ที่ทำสิ่งใดก็ตามโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน  การที่คน ๆ หนึ่งทำอะไรบางอย่าง ๆ ต่อเนื่องและยาวนานได้เพราะสิ่งที่เขาต้องการยังคงอยู่หรือความหวังที่เขาจะได้สิ่งที่เขาต้องการยังมีอยู่

ผมกลับมาที่กะทู้นี้ก็เช่นกันเพื่อประโยชน์ของผมเองเป็นหลัก
1 ครอบครัวผมถือแคทอลิก  ผมต้องการคงความเชื่อในแนวทางนี้ของผมไว้  แม้จะน้อยลงทุกที
2 กระแสความคิดของผู้คนที่เข้ามาอ่านกะทู้นี้ผมเชื่อว่าได้ส่งผ่านมาถึงผมด้วย  ทำให้ผมเกิดความคิดใหม่ ๆ ด้วย
3 ทุกคนที่ได้ตอบกะทู้นี้ได้ช่วยให้ผมได้คิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมคิดไม่ถึง
4 ได้มองเห็นตนเองเมื่อเวลาผ่านไป
5 ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมีอยู่การแสวงหานั้นก็ยังคงดำเนินต่อไป
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:32 pm

ความเที่ยงตรงของพระเจ้า ความเห็นของผม ณ วันนี้ คือ  ทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาไม่ว่าดีหรือชั่วพระเจ้าล้วนประทานให้ถ้าเขาผู้นั้นมีความปรารถนามากพอและมีความเชื่อว่าเขาจะได้สิ่งนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง  และสิ่งที่ได้รับมานั้นไม่ได้ประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่ไม่นาน  และสิ่งที่ได้รับมานั้นประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่นานแสนนาน

พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้  และนี่คือกฏของพระองค์  ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม  กฏนี้เป็นจริงเสมอ  นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:40 pm

sakda88 เขียน: ความเที่ยงตรงของพระเจ้า ความเห็นของผม ณ วันนี้ คือ  ทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาไม่ว่าดีหรือชั่วพระเจ้าล้วนประทานให้ถ้าเขาผู้นั้นมีความปรารถนามากพอ
และมีความเชื่อว่าเขาจะได้สิ่งนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง  และสิ่งที่ได้รับมานั้นไม่ได้ประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่ไม่นาน  และสิ่งที่ได้รับมานั้นประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่นานแสนนาน

พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้  และนี่คือกฏของพระองค์  ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม  กฏนี้เป็นจริงเสมอ  นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้
อย่าพูดว่าพระเจ้าเป็นกฎซิครับ ฟังดูโหดร้ายยังไงก็ไม่รู้ : xemo033 :
อย่างนี้ผมเรียกว่าการตีสอนของพ่อซะมากกว่านะครับ
เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา เลยเลือกที่จะให้เราได้รับบทเรียน ฟังดูดีกว่าไหมครับ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 2:52 am

sasuke เขียน:
sakda88 เขียน: ความเที่ยงตรงของพระเจ้า ความเห็นของผม ณ วันนี้ คือ  ทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาไม่ว่าดีหรือชั่วพระเจ้าล้วนประทานให้ถ้าเขาผู้นั้นมีความปรารถนามากพอ
และมีความเชื่อว่าเขาจะได้สิ่งนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง  และสิ่งที่ได้รับมานั้นไม่ได้ประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่ไม่นาน  และสิ่งที่ได้รับมานั้นประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่นานแสนนาน

พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้  และนี่คือกฏของพระองค์  ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม  กฏนี้เป็นจริงเสมอ  นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้
อย่าพูดว่าพระเจ้าเป็นกฎซิครับ ฟังดูโหดร้ายยังไงก็ไม่รู้ : xemo033 :
อย่างนี้ผมเรียกว่าการตีสอนของพ่อซะมากกว่านะครับ
เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา เลยเลือกที่จะให้เราได้รับบทเรียน ฟังดูดีกว่าไหมครับ : xemo026 :

พระองค์เป็นกฎ เพียงแต่เป็นกฎแห่งความรัก
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ มี.ค. 04, 2007 5:41 pm

Jack Sparrow เขียน: วิถีชีวิตพระเจ้าเท่านั้นที่กำหนด เราเหมือนเรือแต่พระเจ้าเป็นผู้นำว่าเรือจะไปในทิศทางใดฝากชีวิตทั้งชีวิตให้พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทางครับ ไม่ว่าเจอพายุร้ายดูเหมือนเรือใกล้จะล่มแต่เราก็ไม่กลัวเพราะเรารู้ว่ามีพระเจ้าทรงนำทางพระองค์ไม่เคยหลับเมื่อเรามีภัย
เราแต่ละคนกำหนดวิถีชีวิตของเราเองโดยไม่รู้ตัวเสียส่วนมาก  พระเจ้าเป็นผู้กำหนดให้อาดัมละเมิดข้อห้ามของพระองค์หรือกระนั้นหรือ ?
เปล่าเลย  พระเจ้าอนุญาติให้การละเมิดนั้นเกิดขึ้นได้และให้มนุษย์ได้เรียนรู้ถึงผลของการละเมิดนั้น  เราแต่ละคนกำหนดวิถีชีวิตของเราเองและหลายคนได้ให้พระเจ้าช่วยในการนำทางชีวิตของตนและหลายคนได้ถวายตัวทั้งหมดแด่พระเจ้าซึ่งจะเห็นได้ว่าชีวิตพวกเขาเหล่านั้นเต็มเปี่ยมด้วยความรักและเมตตา  เช่น  แม่ชีเทเรซ่าแห่งกัลกัตตา  เป็นต้น
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ มี.ค. 31, 2007 11:34 am

ผมกำลังแสวงหาคนที่รักการเรียนรู้  ปรารถนาช่วยผู้อื่นให้มีสุขภาพที่ดี 
ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี  และสามารถเพิ่มภูมิปัญญาให้กันและกัน

ให้ความไว้วางใจและให้อภัยเมื่อเราไม่ไว้วางใจ
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ เม.ย. 09, 2007 11:37 am

พระเจ้าสร้างมนุษย์และมนุษย์สุดแสนมหัศจรรย์
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ จันทร์ เม.ย. 09, 2007 2:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ เม.ย. 16, 2007 10:39 am

ในกาลามสูตรนั้น สอนไม่ให้เชื่อเพียงเพราะเหตุต่างๆ 10 ประการ แต่ให้เชื่อหลังจากพิจารณาแล้ว 4 ประการ อันพอสรุปได้ว่าให้งดเว้น 10 ประการ ให้กระทำ 4 ประการ ข้อที่ควรงดเว้น คือ การเชื่อเพียงเพราะ
1. ฟังตามกันมา
2. นำสืบๆ กันมา
3. ข่าวลือ
4. อ้างตำรา
5. นึกเดาเอาเอง
6. คาดคะเน
7. ตรึกตามอาการ
8. ชอบใจว่าตรงกับความคิดเห็นของตน
9. เห็นว่าพอจะเชื่อได้
10. เห็นว่าผู้นี้เป็นครูของเรา

ข้อที่สอนให้พิจารณาซึ่งควรทำ มี 4 ประการ คือ
1. ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลหรือกุศล
2. มีโทษหรือไม่มีโทษ
3. วิญญูชนติเตียนหรือสรรเสริญ
4. ถ้าประพฤติปฏิบัติแล้วจะก่อให้เกิดสิ่งไม่เป็นประโยชน์ ความทุกข์ หรือก่อให้เกิดประโยชน์ ความสุข

ถ้าเห็นว่าเป็นฝ่ายไม่ดีก็จะละเสีย ถ้าเห็นว่าดีจึงค่อยกระทำ คำสอนมีทั้งให้เว้นทางลบ 10 ข้อ ให้ปฏิบัติทางบวก 4 ข้อ น่าจะมีความกระจ่างอยู่ในตัวแล้ว ในทางปฏิบัติจึงควรเว้นทั้ง 10 ข้อ ควรกระทำหรือพิจารณาทั้ง 4 ข้อ ผสมผสานกันไป
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ เสาร์ เม.ย. 28, 2007 12:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบกลับโพส